รหัสหลักสูตร
ชื่อหลักสูตร
G34
หลักสูตรการทำผลิตภัณฑ์เครื่องหอมไทยตำรับโบราณประยุกต์
ครั้งต่อไป
ผู้เข้าอบรมกำหนดวันเรียนได้เอง
จำนวนผู้เข้าอบรม
.........................
วิทยากรผู้สอน
ผศ.บังอร โพธินิ่มแดง
ระยะเวลาการอบรม
2 วัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น.
(อาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลาได้ขึ้นอยู่กับข้อคำถามของผู้เข้าอบรม)
เหมาะกับบุคคลทั่วไปที่สนใจผลิตภัณฑ์เครื่องหอมไทยตำรับโบราณประยุกต์
ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานมาก่อนก็สามารถเรียนเข้าใจและทำได้
หมายเหตุ
เวลาในแต่ละวันอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ทางสถาบันฯขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
ค่าลงทะเบียนเรียนตลอดหลักสูตร
สถานที่อบรม
30/131 หมู่9 ถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ด ซอย11 ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120 ประเทศไทย
สอบถามข้อมูล
หลักสูตรนี้เหมาะสำหรับ
เหมาะกับบุคคลทั่วไปที่สนใจ ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานมาก่อนก็สามารถเรียนเข้าใจและทำได้
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร
1. เพื่อให้ผู้อบรมมีความรู้ความใจประวัติความเป็นมาของเครื่องหอมไทย รู้จักเครื่องใช้ เครื่องปรุงที่ใช้ทำเครื่องหอมไทย การเก็บรักษาเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำเครื่องหอม
2. เพื่อให้ผู้อบรมมีความรู้ความเข้าใจเอกลักษณ์ที่แตกต่างของเครื่องหอมไทยกับน้ำหอมต่างประเทศ
3. เพื่อให้ผู้อบรมมีความรู้ความเข้าใจเครื่องปรุงเครื่องหอม ที่ประกอบด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด และเครื่องปรุงต่างๆ เข้าใจวิธีการทำน้ำหอมมี 3 วิธีหลักๆ คือ การอบ การร่ำ และการปรุง เมื่อทำเสร็จแล้วจะได้กลิ่นหอมสดชื่นแบบไทยๆ เข้าใจเรื่องชะมดเช็ด และวิธีการฆ่าชะมดเช็ดเพื่อนำมาทำผลิตภัณฑ์เครื่องหอมไทย ฯลฯ ทำให้สามารถเข้าใจและปฏิบัติทำเครื่องหอมไทยได้จริง
รายละเอียดหลักสูตร
หลักสูตรการทำผลิตภัณฑ์เครื่องหอมไทยตำรับโบราณประยุกต์ เครื่องหอมภูมิปัญญาไทย เป็นการถ่ายทอดจากผู้รู้และผู้มีประสบการณ์ในการทำเครื่องหอมมายาวนาน ซึ่งได้แสดงขั้นตอนการทำพร้อมภาพประกอบอย่างละเอียด อาทิ น้ำอบไทย ดอกไม้สด น้ำปรุง เทียนอบ บุหงาดอกไม้แห้ง ธูปอโรม่าและอีกมากมาย ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาไทยที่สืบทอดกันมาช้านาน นอกจากนี้ยังได้สอดแทรกสาระความรู้เกี่ยวกับเครื่องใช้ เครื่องปรุง และวิธีนำไปใช้งาน เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจและรู้จักเครื่องหอมแต่ละประเภทมากขึ้น
เป็นศาสตร์อย่างหนึ่งในการรักษาสุขภาพแบบองค์รวม นอกจากความหอมจะให้ความสดชื่นแล้ว ยังช่วยในด้านจิตใจ ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด ใช้ประโยชน์เพื่อรักษาโรค ใช้ดูแลความงาม ใช้เป็นของชำร่วย ใช้ในงานพิธีและงานเทศกาลต่าง ๆ ด้วย แบ่งการเรียนเป็นภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เน้นเรียนแบบเข้าใจง่าย ทำได้จริง เรียนแล้วสามารถต่อยอด พัฒนาสูตรได้เอง และสามารถทำผลิตภัณฑ์ได้แน่นอน
1. ผู้เข้าอบรมเข้าใจประวัติความเป็นมาของเครื่องหอมไทย รู้จักเครื่องปรุงที่ใช้ทำเครื่องหอมไทยและการเก็บรักษาเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำเครื่องหอมไทย
2. ผู้เข้าอบรมเข้าใจเอกลักษณ์ที่แตกต่างของเครื่องหอมไทยกับน้ำหอมของต่างประเทศ
3. ผู้เข้าอบรมเข้าใจวิธีการทำเครื่องหอมไทย
4. ผู้เข้าอบรมเข้าใจเรื่องชะมดเช็ด และวิธีการฆ่าชะมดเช็ดเพื่อนำมาทำผลิตภัณฑ์เครื่องหอมไทย
5. ผู้เข้าอบรมได้ลงมือปฏิบัติทุกขั้นตอน ผลิตภัณฑ์ที่จะให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติมีจำนวน 7 สูตร ดังนี้
5.1 บุหงาดอกไม้สด เป็นการใช้ดอกไม้สดที่มีกลิ่นหอมและใบไม้ สมุนไพรหอมต่างๆ ผสมกับหัวน้ำมันหอม สารตรึงกลิ่น ผสมคลุกเคล้ารวมกัน นำไปใส่ในบรรจุภัณฑ์ ใช้เป็นของชำร่วยในงานมงคลต่างๆ เช่น งานแต่งงาน งานวันเกิด เทศกาลสงกรานต์
5.2 บุหงาดอกไม้หอม (ดอกไม้แห้ง) เป็นการใช้ดอกไม้สดที่มีกลิ่นหอมและใบไม้ สมุนไพรหอมต่างๆ นำไปผ่านกรรมวิธีทำให้แห้งสะอาด และคลุกเคล้าหัวน้ำมันหอม สารตรึงกลิ่น นำไปใส่ในบรรจุภัณฑ์ ใช้เป็นของชำร่วยในงานมงคลต่าง ๆ เช่น งานแต่งงาน งานวันเกิด เทศกาลสงกรานต์
5.3 น้ำอบไทยดอกไม้สด เป็นการปรุงกลิ่นด้วยควันหรือปรุงกลิ่นด้วยดอกไม้หอม การอบให้มีกลิ่นหอมชั่วระยะหนึ่ง กลิ่นหอมนั้นจะซึมซาบเข้าไปในของที่นำไปอบ ใช้ผสมแป้งกระแจะ สำหรับเจิมในพิธีการต่างๆ ใช้สรงน้ำพระพุทธรูปและรดน้ำขอพรจากผู้ใหญ่ในเทศกาลต่างๆ เป็นต้น นอกจากจะมีกลิ่นหอมแล้ว ยังช่วยทำให้สดชื่นได้อีกด้วย
5.4 แป้งร่ำสมุนไพร คือแป้งชนิดหนึ่งที่ผสมเครื่องหอมและอบร่ำให้มีกลิ่นหอม ใช้สำหรับทาหน้า ผสมน้ำอบหรือน้ำปรุง แล้วชโลมตัวเพื่อลดอาการระคายผิว ทำให้สบายตัว การทาแป้งร่ำยังช่วยให้หน้าไม่มัน มีกลิ่นหอมสดชื่น
5.5 แป้งพวงมาลัย คือแป้งหอมที่มีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ ติดเรียงบนเส้นด้าย นำมาผูกติดกับดอกไม้ประดิษฐ์หรือริบบิ้น มาลัยแป้งพวง ก็คือแป้งที่มีความงดงาม อ่อนหวาน ประณีต และมีกลิ่นหอมจรุงใจ เป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย ที่สามารถประดิดประดอย ดัดแปลง แป้งร่ำและน้ำปรุง ขึ้นมาเป็นแป้งพวงที่สามารถใช้บูชาพระ ไหว้ผู้ใหญ่ บุคคลที่เคารพ มอบเป็นของขวัญหรือตั้งโชว์ หรือประดับผม แทนพวงดอกไม้ และยังให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ยามเมื่อต้องลมเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง เพื่อใช้เป็นของชำร่วยหรือของขวัญสำหรับเทศกาล เก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าหรือวางในห้อง ให้กลิ่นหอมยาวนาน
5.6 น้ำปรุงดอกไม้สด น้ำปรุงเป็นเครื่องหอมชนิดหนึ่งเช่นเดียวกับน้ำอบไทย มีกลิ่นหอมเย็นและให้ความรู้สึกแบบไทยๆ ใช้ใส่ผ้าเช็ดหน้าหรือฉีดบุหงาให้มีกลิ่นหอม สกัดจากส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีเจือปน ด้วยกรรมวิธีการทำแบบโบราณ จึงปลอดภัยกับผู้ใช้ เป็นน้ำปรุงตำรับชาววัง
5.7 ธูปหอม เป็นธูปทรงพีระมิด มีขนาดรูปทรง สี และกลิ่นแตกต่างกันออกไป เช่น กลิ่นกุหลาบ กลิ่นมะลิ กลิ่นส้ม เป็นต้น ใช้จุดให้เกิดกลิ่นหอมภายในห้อง เพื่อกำจัดกลิ่นอับและเพิ่มความหอม หรือใช้เป็นของขวัญในโอกาสพิเศษ
6. ผู้เข้าอบรมทราบวิธีการติดต่อ อย.เพื่อขอสถานที่ผลิตเครื่องสำอาง (โรงงานเครื่องสำอาง) และขั้นตอนการขอเลขที่ใบรับจดแจ้ง (เลข อย. เครื่องสำอาง) ทราบขั้นตอนการเตรียมเอกสาร และขั้นตอนการขออนุญาต
7. แนะนำผู้เชี่ยวชาญ การทำระบบมาตราฐานสากล เช่น GMP, HALAL, ISO และมาตราฐานระบบสากลอื่นๆ ที่เกี่ยวจข้องกับโรงงานเครื่องสำอาง
8. แนะนำที่ปรึกษา ด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ และ Digital Marketing
สิ่งที่ผู้เข้าอบรมจะได้รับ
1. เอกสารการอบรม /เอกสารแหล่งซื้อวัตถุดิบในหลักสูตรที่อบรม/แหล่งซื้อภาชนะบรรจุ,กล่อง,ฉลากและอื่นๆ
2. ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในหลักสูตรที่อบรมทุกรายการ
3. ใบประกาศนียบัตรการผ่านการอบรมหลักสูตร ทั้งฉบับภาษาไทย และฉบับภาษาอังกฤษ
4. เอกสารขั้นตอนการขออนุญาตสถานที่ผลิตเครื่องสำอาง และการขอเลขที่ใบรับจดแจ้ง (เลขอย. เครื่องสำอาง)
5. ผู้เข้าอบรมสามารถเข้าอบรมซ้ำในหลักสูตรเดิมได้อีก 1 ครั้ง โดยมีเงื่อนไขดังนี้
5.1 ต้องอยู่ภายในระยะเวลา 3 เดือนจากที่เรียนครั้งแรกไป เมื่อสถาบันฯ มีการเปิดอบรม
5.2 ต้องเป็นผู้เข้าอบรมท่านเดิมมาเรียน และให้นำเอกสารที่แจกครั้งแรกมาเอง
5.3 ต้องแจ้งชื่อมาล่วงหน้าก่อนวันที่จะมาเรียนซ้ำอย่างน้อย 3 วัน
5.4 จะไม่ได้ผลิตภัณฑ์และใบประกาศหลังจากที่มาเรียนซ้ำในครั้งนั้น แต่อาหารว่าง เครื่องดื่ม และอาหารกลางวัน มีบริการให้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
บริษัท เวชศาสตร์ความงามแผนไทย จำกัด ขอสงวนลิขสิทธิ์ในการเป็นผู้คิดค้นสูตรและเทคนิคการทำ ตลอดจนการเผยแพร่ การจัดอบรมหลักสูตร เทคนิควิธีการ และวัตถุดิบที่ใช้ในหลักสูตรนี้ การจัดจำหน่าย ห้ามแอบอ้าง ห้ามลอกเลียนแบบ ไม่ว่าในรูปแบบใดๆ นอกจากจะได้รับอนุญาตเป็นเอกสารลายลักษณ์อักษร ที่มีการตกลงอย่างเป็นทางการเท่านั้น มิฉะนั้นจะมีความผิดตามกฎหมาย